เมล็ดแมงลักนำมาทำเป็นยาระบายและอาหารเสริมลดความอ้วนได้

แมงลัก ก้อมก้อข้าว หรือ มังลัก (ชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum x citriodourum) เป็นพืชล้มลุกในสกุลกะเพรา-โหระพา แมงลักมี ใบเล็ก สีอ่อน บอบบาง ช้ำง่ายและเหี่ยวง่ายกว่า ชื่อสามัญเดิมเรียกกันว่า hoary basil (hoary แปลว่าผมหงอก) โดยนำมาจากลักษณะที่มีขนอ่อนสีขาวๆ บริเวณก้านใบและยอดอ่อน ต่อมาก็เปลี่ยนมาเรียกว่า lemon basil ตามลักษณะกลิ่นที่คล้ายส้ม-มะนาว ส่วนแมงลักศรแดงของไทยเรียกว่า thai lemon basil

คุณค่าทางโภชนาการ
แมงลัก 1 ขีด มีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 590.56 ไมโครกรัม เทียบหน่วยเรตินัล ให้แคลเซียม 140 มิลลิกรัม ไฟเบอร์ หรือกากใยอาหารสูง
คุณสมบัติ
ดูดซับน้ำได้ 25 เท่า
เปลือกภายนอกจะสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่า
ไม่ถูกย่อยทำให้เพิ่มกากและหล่อลื่น
ประโยชน์ที่ใช้
ขับถ่ายได้ง่ายมากขึ้น บรรเทาอาการท้องผูก
ช่วยลดการดูดซึมอาหารเข้าสู่ร่างกาย
เพิ่มจำนวนครั้งในการถ่าย เพิ่มปริมาณอุจจาระ ทำให้อุจจาระอ่อนตัวกว่าปกติ
ปริมาณไขมันที่ระบายออกมาพร้อมกับอุจจาระเพิ่มขึ้นด้วย  ช่วยป้องกันการดูดซึมไขมันสู่กระแสเลือด ช่วยลดระดับไขมันและน้ำตาล
การใช้
เมล็ด แมงลัก ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 240 ซี.ซี. หรือประมาณ 1 แก้ว (ให้ผลเป็นยาระบายในคนปกติเช่นเดียวกับ psyllium 2 ช้อนชา  สำหรับคนน้ำหนัก 50-60 กิโลกรัม ถ้าน้ำหนักมากกว่านี้ให้เพิ่มตามส่วน) ชงไม่ต้องเติมน้ำตาลกินก่อนนอน ครั้งเดียวเพื่อช่วยระบาย แต่ถ้าต้องการกินเพื่อลดน้ำหนัก หรือรักษาอาการท้องผูกให้กินก่อนอาหารมื้อหนัก เช่น ก่อนอาหารมื้อเย็น และอีกครั้งก่อนนอน
ข้อควรระวัง
ถ้าใช้เมล็ดแมงลักที่ยังพองตัวไม่เต็มที่ จะทำให้มีการดูดน้ำจากลำไส้เกิดอาการขาดน้ำ และอาจเกิดอาการลำไส้อุดตันได้โดยเฉพาะที่บดเป็นผง
เม็ดแมงลักที่พองตัวเต็มที่แล้วเมื่อกินเข้าไปจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว และอยู่ท้องนานไม่อยากกินอะไรหรือกินไม่ได้มากนักตรงนี้ ต้องกะปริมาณการกินเม็ดแมงลักให้ดี อย่าให้มากเกินไป เพราะจะทำให้ขาดสารอาหารอื่นๆที่จำเป็น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สนเข็ม - วิธีร้อยด้ายที่ไม่ต้องลุ้น

วิธีแก้ไขเครื่องปรุงรสจับตัวเป็นก้อน

วิธีล้างถังน้ำดื่มที่มีตะไคร่