ผึ้งต่อยควรทำอย่างไร


การปฐมพยาบาลผู้ป่วยเบื้องต้น-ขณะที่ยังไม่มีอาการแพ้
1. สิ่งแรกที่ต้องทำคือ รีบเอาเหล็กใน(ฺbarbed stinger) ออกโดยเร็วที่สุดโดยไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการ ไม่ควรล้าช้าแม้แต่เสี้ยววินาทีเพื่อลดปริมาณพิษที่กำลังถูกปล่อยออกมา
2. จากนั้นรีบทำความสะอาดทันที- ล้างทำความสะอาดจุดที่เหล็กในทิ่ม ด้วยน้ำ สบู่ หรือเช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์ หากอยู่ในป่าก็สามารถใช้ใบสาบเสือแทนได้ โดยใช้ใบสดมาขยี้แล้วปิดลงบนจุดที่ผึ้งต่อย
3. และในเวลาเดียวกันนั้นก็-อาจลดพิษได้อีกเล็กน้อยโดยการทาแผลด้วยน้ำมันมะพร้าวและขมิ้น หลังจากนั้นบีบ-รีดพร้อมเช็ดออก หรืออาจจะใช้กระบอกฉีดยา(Syringe) ช่วยดูดเบาๆ อย่าทำแรงจนเนื้อช้ำ

อาการทั่วไปเมื่อโดนผึ้งต่อย(Bee sting)
1. รู้สึกเหมือนถูกตำด้วยเข็มหรือหนาม จนปวด ร้อน ตรงจุดที่ผึ้งต่อย ซึ่งทำให้เราหาตำแหน่งที่ผึ้งต่อยเจอง่าย
2. ต่อมาความรู้สึกเจ็บปวดเป็นจุดจะค่อยๆ ลดลงแต่จะปวดกระจายออกในบริเวณที่พิษลามไปถึง
3.โดยทั่วไปถ้าไม่มีอาการแพ้แล้วความเจ็บปวดจะค่อยๆ ลดลงและหายไป และอาการคันที่ตามมาก็จะหายไปด้วย ซึ่งอาจกินเวลาเป็นวันๆ

กรณีเกิดการแพ้บวมที่โตเท้าหรือมือ-ควรรีบไปพบแพทย์
1. ในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากถูกผึ้งต่อย บริเวณที่พิษลามไปถึงจะปวดและรู้สึกตึงๆ ผิวหนังบริเวณที่มีการบวมโต เช่น ถูกผึ้งต่อยใต้ฝ่าเท้าแต่หลังเท้าและนิ้วเท้าก็จะปวดและบวมด้วย
2. และในวันที่สองบริเวณที่บวมโตจะมีความร้อนอุ่นๆเล็กน้อย และอาการบวมโตยังคงลามออกไปได้อีกเท่าตัวของวันแรก โดยอาจจะลามไปไม่ถึงข้อต่อ เช่น ข้อเท้า ข้อมือ ซึ่งในวันที่สองนี้จะเริ่มปรากฎรอยที่ผึ้งต่อยเป็นจุดสีขาว หรือเหลืองซีด และบริเวณโดยรอบจะเป็นรอยสีแดงคล้ำ ส่วนบริเวณที่ห่างออกไปอาจจะมีอาการคัน

กรณีมีอาการแพ้อย่างรุนแรงซึ่งผู้ป่วยอาจถึงแก่ชีวิตได้-ควรพาผู้ป่วยไปขอพบแพทย์อย่างเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน
หากมีอาการดังนี้ เช่น มีผื่นคันสีแดง หรือสีซีดขาว เพลีย หายใจลำบาก เสียงแหบ ใบหน้าบวม ตาบวม ลิ้นบวม คอบวม ใจสั่น หัวใจเต้นแรง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง กระวนกระวาย ไม่รู้สึกตัว หมดสติ ปวดศรีษะ เวียนหัว ชัก เป็นไข้




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สนเข็ม - วิธีร้อยด้ายที่ไม่ต้องลุ้น

วิธีแก้ไขเครื่องปรุงรสจับตัวเป็นก้อน

วิธีล้างถังน้ำดื่มที่มีตะไคร่